อบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาความสามารถทางนวัตกรรม สำหรับกลุ่มผู้นำรุ่นใหม่ภาครัฐและเอกชน
การอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาความสามารถทางนวัตกรรมสําหรับกลุ่มผู้นํารุ่นใหม่ภาครัฐและเอกชน โดยมุ่งเป่าในการปรับเปลี่ยนชุดความคิดของกลุ่มผู้บริหารระดับกลางที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะเติบโตขึ้นไปเป็นผู้นําในระดับสูง ทั้งหน่วยงาน ภาครัฐ เอกชน ทหารตํารวจ นักการเมือง สื่อมวลชน เพื่อสร้าง การเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดพร้อมมีทักษะและแนวทางในการวางรากฐานการคิดนวัตกรรมเชิงนโยบาย (Policy Innovation) ในบริบทของสาธารณะที่เกิดบนความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเป็นการเชื่อมโยงการทํางานระหว่างหน่วยงาน ภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม สามารถสร้างเครือข่ายผู้นํานวัตกรรมในอนาคตที่จะผลักดันนวัตกรรมเชิงนโยบายให้เกิดผลได้จริง
- เพื่อสร้างและพัฒนาหลักสูตร “อบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาความสามารถทางนวัตกรรมสำหรับกลุ่มผู้นำรุ่นใหม่ภาครัฐและเอกชน” ที่เน้นกระบวนการคิดแบบสร้างสรรค์และสร้างฐานคิดแบบนวัตกรรมเชิงนโยบาย (Policy Innovation)
- เพื่อสร้างศักยภาพผู้นำภาครัฐและเอกชนให้มีแนวคิดที่เป็นนวัตกรรมโดยพัฒนาความรู้และความเข้าใจ บ่มเพาะทักษะและกระบวนทัศน์ เพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นผู้นำรุ่นใหม่ ที่มีแนวคิดเชิงนวัตกรรม และมีการทำงานร่วมกันในลักษณะเครือข่าย เพื่อขับเคลื่อนประเทศในทุกมิติ และผลักดันให้กลุ่มผู้นำเหล่านี้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศนวัตกรรมที่ดี
- เพื่อผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์เครือข่ายทางนโยบาย (Policy Network) ระหว่างผู้นำทั้งภาครัฐและเอกชน จนกระทั่งสามารถสร้างเครือข่ายผู้นำองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนในกลุ่มที่มีบทบาทในการสร้างนวัตกรรม
- เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนานโยบายนวัตกรรมที่จะสามารถนำไปสู่การปฏิบัติให้สัมฤทธิ์ผลในอนาคต
- การสร้างผู้เข้าร่วมให้เป็นผู้นำและผู้บริหารนวัตกรรม (Chief Innovation Leadership)
- การสร้างเครือข่ายคนรุ่นใหม่จากทั้งภาครัฐและเอกชน (Policy Network)
- การสร้างพื้นที่รังสรรค์ความคิด (Co-creation) ในเชิงนวัตกรรม และพื้นที่ของการสร้างโอกาสในการนำร่องนวัตกรรม (Sandbox) รับมือกับภาวะวิกฤต
- การผลักดันนวัตกรรมเชิงนโยบาย (Innovation Policy) ให้เกิดขึ้นได้จริง
- การร่วมเครือข่ายผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในประเทศและต่างประเทศ
กลุ่มผู้บริหารระดับตัดสินใจนโยบายและระดับกลางไม่น้อยกว่า 70 คน จาก 5 กลุ่ม โดยมีสัดส่วน ดังนี้
- ภาครัฐ (Public Sector) 40%
- ภาคเอกชน (Private Sector) 40%
- ฝ่ายความมั่นคง (National Security Sector) 10%
- ภาคการเมือง (Political Sector) 5%
- ภาคสื่อ (Media Sector) 5%
- ผู้นำรุ่นใหม่ที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
- ผู้ที่มีความสนใจในสร้างการเปลี่ยนแปลงระดับโครงสร้างเชิงนโยบาย ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับองค์กรและระดับประเทศ
- ผู้บริหารระดับตัดสินใจนโยบายและระดับกลาง
- ผู้สมัครจะต้องมีประสบการณ์ในระดับบริหารไม่น้อยกว่า 5 ปี
- มีความเชี่ยวชาญในสายงานและประสบการณ์การพัฒนานวัตกรรม
- มีแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรมเชิงนโยบายที่เสนอประกอบการสมัคร มีความสำคัญ มีความเป็นไปได้ และมีผลกระทบสูง
- ตลอดหลักสูตรรวม 50 ชั่วโมง
- 1 วันต่อสัปดาห์
- จัดทุกสัปดาห์ตลอด 3 เดือน รวม 10 - 11 สัปดาห์
- ภาษาที่ใช้ : ไทย/อังกฤษ
- ใบประกาศ : มี
ที่เสริมสร้างขีดความสามารถในการคาดการณ์อนาคต เพื่อบ่งชี้โอกาส ความท้าทาย และปัญหาที่สำคัญในอนาคต เพื่อใช้เป็นโจทย์สำหรับการออกแบบนโยบาย ซึ่งประกอบด้วยเครื่องมือย่อยที่สำคัญ ดังนี้
ที่ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการทำความเข้าใจกับปัญหาของกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ และการออกแบบนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว
ที่ช่วยเพิ่มทักษะในการออกแบบและพัฒนานโยบายให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม
กิจกรรมส่งเสริมความรู้และพัฒนาทักษะด้านนวัตกรรม สร้างความรู้ที่เข้มแข็งทั้งทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อทดลองใช้เริ่มต้นคิดค้นนวัตกรรม อาทิ การอบรมภาคทฤษฎี (Training), การอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop), การสัมมนา (Seminar), การสัมมนาออนไลน์ (Webinar) การวิจัยภาคสนาม การลงพื้นที่เพื่อสังเกตและเก็บข้อมูล (Field Trip), การพัฒนานวัตกรรมผ่านการแข่งขันทำต้นแบบ (Hackathon) เพื่อร่วมคิดค้นไอเดียและนวัตกรรมใหม่ ๆ และการนำ เสนอ (Presentation) นโยบายนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นและการส่งมอบนวัตกรรมให้กับหน่วยงานผู้ใช้ประโยชน์
การสร้างเครือข่ายพันธมิตรและความร่วมมือทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การเสวนาและการบรรยายเนื้อหาจากวิทยากร (Speaker) และผู้นำด้านนวัตกรรม (Innovation Leaders) ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ มากกว่า 30 ท่าน
ส่งเสริมให้เกิดกระบวนการคิดเชิงอนาคต (Future Thinking)ด้วยเครื่องมือที่ช่วยให้เห็นเป้าหมายที่จะเกิดขึ้น เพื่อนำ ไปใช้ในการออกแบบ และวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ทั้งในระดับประเทศระดับอุตสาหกรรม และระดับองค์กร
ระบบติดตามและเก็บผลประเมินศักยภาพด้านนวัตกรรมของบุคคล (Tracking System) เพื่อออกประกาศนียบัตรหรือใบรับรองความรู้